การรักษากรดไหลย้อนและกระเพาะอาหาร

Last updated: 27 มิ.ย. 2561  |  6084 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การรักษากรดไหลย้อนและกระเพาะอาหาร

การรักษากรดไหลย้อนและกระเพาะอาหาร

คำถามที่เราพบบ่อยๆ คือ รักษาอย่างไรได้บ้าง, ส่องกล้องทำไม, ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร และต้องใช้ระยะเวลาการรักษานานแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีคำถามอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เราจะมาอธิบายไปทีละหัวข้อกันนะค่ะ

รักษาอย่างไรได้บ้าง

วิธีที่ 1 คือ “กำจัดต้นเหตุของการเกิดโรค”

 ในวิธีที่ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ ถ้าหากต้องการให้อาการหายขาดเร็วมากยิ่งขึ้นอาจทานขมิ้นชัน หรือกล้วยน้ำหว้าควบคุมกับการปรับพฤติกรรมไปด้วยค่ะ โดยแนวทางการปรับพฤติกรรมมีดังนี้ คือ

1.   กินอาหารให้เป็นเวลา

2.   งดอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด

3.   งดดื่มเหล้า เบียร์ หรือยาดอง

4.   งดดื่มน้ำชา กาแฟ

5.   งดสูบบุหรี่

6.   งดเว้นการกินยา ที่มีผลต่อกระเพาะอาหาร

7.   พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายคลายตึงเครียด

8.   หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen), นาโปรเซน (Naproxen), อินโดเมธาซิน (Indomethacin), อีโตริคอกซิบ (Etoricoxib) หรืออาร์โคเซีย (Arcoxia) และเซเลโคซิบ (Celecoxib) หรือเซเลเบรก (Celebrex)

 

วิธีที่ 2 คือ “การให้ยารักษา”

 รักษาด้วยการให้กินยาอย่างถูกต้อง คือต้องกินยาให้สม่ำเสมอ กินยาให้ครบตามจำนวน และระยะเวลาที่แพทย์สั่งยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ แผลจึงจะหาย ดังนั้นภายหลังกินยา ถ้าอาการดีขึ้นห้ามหยุดยา ต้องกินยาต่อจนครบ และแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยตรงแน่ใจว่าแผลหายแล้ว จึงจะลดยาหรือหยุดยาวได้

วิธีที่ 3 “การผ่าตัด”

 ในปัจจุบันมียาที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารจำนวนมาก ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

สำหรับการผ่าตัดอาจทำให้เป็นกรณีที่เกิดโรคแทรกซ้อน ได้แก่

-      เลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก โดยไม่สามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้

-      แผลกระเพาะอาหารทะลุและลำไส้เล็กเกิดการทะลุ

-      กระเพาะอาหารมีการอุดตัน

 การผ่าตัดส่องกล้องแบบ Endoscope หรือการผ่าตัดหูรูดกระเพาะ ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างแพง โรงพยาบาลเอกชน ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 80,000 บาท ส่วนโรงพยาบาลรัฐบาลแนะนำให้ใช้สิทธิบัตรทองเพื่อลดค่าใช้จ่ายค่ะ

 

โรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนที่รักษาแล้วไม่หายหรือเป็นซ้ำบ่อยมีสาเหตุดังนี้

·         ไม่ได้รับประทานยาตามที่ผู้เชี่ยวชาญสั่งอย่างต่อเนื่อง

·         เชื้อโรคอาจจะดื้อยา

·         ยังคงสูบบุหรี่

·         ยังคงรับประทานยาแก้ปวด

·         เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

·         เป็นโรคอื่น

 

อาการเตือนที่ทำให้ต้องระวังว่าเป็นมะเร็ง ได้แก่

-      ปวดท้องจนต้องตื่นนอนตอนกลางคืน

-      น้ำหนักลดลงมากกว่า ร้อยละ 5 ใน 1 เดือน

-      อายุมากกว่า 40 ปี

-      ถ่ายเป็นเลือด อาเจียน หลังรับประทานอาหาร กลืนลำบาก

-      มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

-      ซีด ตัวเหลืองตาเหลือง

-      ตับม้ามโต มีก้อนในท้อง ท้องโตขึ้น

-      มีการเปลี่ยนของระบบขับถ่าย

 

ประโยชน์ของการส่องกล้อง

 ประโยชน์ของการส่องกล้องทางปากจะช่วยบอกว่าในทางเดินอาหาร, หลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนต้นมีพยาธิสภาพอะไรที่ผิดปกติไปบ้างเช่น มีแผล, มีเนื้องอก, มีเส้นเลือดโป่งพอง, มีการตีบแคบ หรือมีรอยแดง รอยอักเสบเกิดขึ้น

 สำหรับค่าใช้จ่ายในการส่องกล้อง เฉพาะค่าส่องกล้อง เริ่มต้น 5,000 บาท โดยยังไม่รวมค่ายา ปกติจะส่งผ่านจมูกเป็นหลักค่ะ

อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยตนเองในวิธีที่ 1 ได้นั้นจะดีที่สุดค่ะ อาจจะลำบากในช่วงแรก แต่เราสามารถควบคุมเรื่องระยะเวลาการรักษา และค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียวนะค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Tel: 084-6368708, 062-4567878
Line: @Thaiherb2017
Facebook page: https://www.facebook.com/thaiherb2017

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้