BLOG

กรดไหลย้อนเป็นโรคที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยกรดไหลย้อนมีคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานลดลง 

วันนี้เราจะมานำเสนอเรื่องของการแบ่งประเภทของผู้ป่วยกรดไหลย้อนแบบละเอียดกันค่ะ แต่เนื้อหาอาจจะทำความเข้าใจยากเล็กน้อยนะค่ะ เพราะเราจะอ้างอิงจากระบบของทางการแพทย์ ที่ใช้ในการแบ่งผู้ป่วยเพื่อแยกการรักษา

เคอร์คูมินอยด์  มาใช้รักษาอาการอักเสบรักษาโรคมะเร็งต่างๆ  ได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้เล็กส่วนต้น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งช่องปาก  อีกทั้งมีการวิจัย พบว่าเคอร์คูมินอยด์ สามารถใช้เป็นเคมีป้องกัน ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ในสัตว์ทดลอง ซึ่งเคอร์คูมินอยด์ที่มีการจัดจำหน่ายเพื่อใช้สำหรับงานวิจัยและการทดลองทางคลินิก

กล้วยน้ำว้าผลไม้พื้นๆที่เราคุ้นชินมาตั้งแต่ยังเด็ก ผลไม้ที่คุณแม่นำมาปดให้ทานบ่อยๆ นอกจากการนำกล้วยน้ำว้ามาประกอบอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ทางยาได้อีกด้วย มาดูกันว่ากล้วยน้ำว้าสามารถรักษาโรคอะไรได้บ้างกันค่ะ

อาหารเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต มีทั้งผลดี และผลเสียต่อร่างกายในขณะเดียวกัน หากไม่รู้จักการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง การทานอาหารมื้อดึกก่อนเข้านอนสามารถส่งผลเสียกับร่างกายได้มากกว่าที่เราคิดโดยเฉพาะกับระบบย่อยอาหาร

ในขมิ้นชันมีสารสกัดที่ชื่อว่า “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ไปยับยั้งการสร้างเอนไซม์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เคอร์คูมินอยด์จึงสามารถนำมาใช้ต้านการอักเสบได้ทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้ เหมาะกับเรื่องปวดข้อ ปวดท้อง ปวดอักเสบ แต่ทนยาแผนปัจจุบันไม่ได้เพราะมีผลข้างเคียงมากมาย โดยเฉพาะผลต่อกระเพาะอาหาร

“กรดไหลย้อน” โรคยอดฮิตของคนเมืองในปัจจุบัน หากเป็นแล้วอาการอาจไม่หายกันง่ายๆ ในบางคนอาจมีอาการเรื้อรังจนทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ พาลไปทำให้คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกประมาณ 20-30% เมื่อไปตรวจโดยการฉีดสีที่เส้นเลือดหัวใจพบว่าเส้นเลือดปกติดี ในกลุ่มนี้ถูกเรียกว่าอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่เกิดจากโรคหัวใจ

ในผู้สูงอายุเซลล์และเนื้อเยื่อทุกชนิดของร่างกายจะเกิดการเสื่อมลงรวมทั้งของหูรูด ดังนั้นจึงเกิดการหย่อนยาน การทำงานของอวัยวะประสิทธิภาพจะลดลง อาหารและกรดในกระเพาะอาหารจึงดันย้อนกลับเข้าในหลอดอาหาร

กรดไหลย้อนลงกล่องเสียง (laryngopharyngeal reflux disease / LPR / "แอลพีอาร์") อาการประเภทนี้มักจะมีอาการรุนแรงกว่าโรคกรดไหลย้อนทั่วไปหรือจะเรียกว่า  "เกิร์ด"  ทั่วๆ ไป เนื่องจากเยื่อบุบริเวณกล่องเสียงจะทนกรดได้น้อยกว่าหลอดอาหาร

หลักๆแล้วเราจะแยกวิธีการทานหลักๆได้ 2 โดยแบ่งตามระยะของอาการ ว่าอยู่ระยะไหน?

การนอนตะแคงซ้าย หรือขวามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อนจริง

การกินมากไปก็ทำให้เป็นผลเสียกับลำไส้ ซึ่งการกินแบบจัดหนักของท่านในแต่ละครั้งโดยเฉพาะบุฟเฟ่ต์ และท่านยังชอบทานจนอิ่มหนักมาถึงคอหอยเพราะกลัวจะไม่คุ้ม จะก่อให้เกิดอาการต่างๆตามมาดังต่อไปนี้

พวกเราจะคุ้นเคยกันดีกับโรคกระเพาะอาหารมากกว่าโรคกรดไหลย้อน  ดังนั้นเมื่อเกิดอาการ "เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก ปวดแสบร้อนในช่องท้องส่วนบน ปวดบริเวณหน้าอก" ก็จะคิดกันก่อนว่านั่นเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหาร ทั้งที่ความจริงแล้วอาจจะเป็น "โรคกรดไหลย้อนจากกระเพาะสู่หลอดอาหาร”

โรคมะเร็งหลอดอาหารเป็นโรคที่ติด1 ใน 10 อันดับแรกของโรคมะเร็งชนิดที่พบบ่อยในชายไทย เป็นโรคมะเร็งในผู้ใหญ่ มักพบในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป และพบในผู้ชายมากกว่าในผู้หญิง

อาการข้อเข่าเสื่อมสามารถพบได้กับทุกเพศทุกวัย แต่โดยส่วนมากมักพบในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ก็อาจมีภาวะป่วยเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น และก้าวสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมอย่างเต็มรูปแบบ

ถ้าคุณอาการ ปวด บวมแดง รู้สึกร้อนๆจนเดินไม่ไหว อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณเป็นโรคเก๊าท์ค่ะ

ทางการแพทย์ศึกษาพบว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งจริง แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยสงสัยกันว่า แล้วต้องดื่มเท่าไรถึงจะเป็น “โรคตับแข็ง”

คำถามที่เราพบบ่อยๆ คือ รักษาอย่างไรได้บ้าง, ส่องกล้องทำไม, ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร และต้องใช้ระยะเวลาการรักษานานแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีคำถามอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เราจะมาอธิบายไปทีละหัวข้อกันนะค่ะ

วันนี้เรามาแนะนำการนวดเพื่อแก้ปัญหาอาการต่างๆ ให้เห็นผล และหายจากอาการนั้นๆ ไม่ใช่เพียงทายา แล้วถูๆ

ในช่วงที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้อง อาจมีอาการแสบบริเวณลิ้นปี่จากการอาเจียน เพราะน้ำย่อยที่อาเจียนออกมาจะทำให้แสบร้อนบริเวณหลอดอาหารได้ และอาจมีความรู้สึกขมที่ลิ้น รู้สึกเจ็บปวดในอก และอาจกระจายถึงคอ เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอ รวมถึงอาการไอเรื้อรัง ทั้งหมดนี้เป็นอาการของกรดไหลย้อนค่ะ

ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ค้นพบสายพันธุ์ขมิ้นชันที่ดีที่สุด และตั้งชื่อว่า "แดงสยาม" ที่ให้ผลผลิตและมีสารเคอร์คูมินสูงมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อันมีฤทธิ์ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคอัลไซเมอร์

อาการท้องอืด ท้องเฟ้อนั้นเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่เราควรรู้จักสังเกตอาการของตัวเองเบื้องต้น เพื่อให้ทราบว่า อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ มาจากสาเหตุของโรคอะไรกันแน่ เพื่อที่เราจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และถูกวิธี ถึงจะเป็นอาการเล็กๆน้อยๆ แต่หากเราปล่อยปะละเลยอาการเล็กๆเหล่านี้ ในอนาคตอาจพัฒนากลายเป็นโรคร้ายจนคุณไม่สามาถรถรักษาได้อีกแล้ว

หากพูดถึงขมิ้นชันทุกๆท่านจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า “มันคือสมุนไพรที่สามารถช่วยรักษากรดไหลย้อน และกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี”  จึงได้มีการนำเอาขมิ้นชันมาสกัด และผ่านกระบวนการผลิตให้ออกมาในรู้แบบต่างๆ ทั้งแบบเม็ดแคปซูล หรือแบบน้ำ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการรับประทาน

สมกับการถูกขนามนามว่า "ราชาสมุนไพร" ด้วยคุณประโยชน์มหาศาล และสารพัดสารที่อยู่ภายในขมิ้นชันนั้น ซึ่งมีความสามารถในการรักษาโรค และอาการต่างๆได้มากมาย จนทำให้วงการแพทย์ในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจขมิ้นชันมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการนำไปต่อยอดวิจัยเพิ่มเติมจากอดีต จนเราได้ตัวยาชนิดใหม่ๆที่มีคุณภาพสูง เพื่อใช้ในการรักษาอย่างเห็นผล วันนี้เราลองมาดูกันว่าภายในขมิ้นชันนั้นประกอบไปด้วยสารอะไรบ้าง

มีประโยชน์ก็ต้องมีโทษ โทษของกาแฟมาจากสารที่อยู่ภายในแก้วกาแฟนั้นเองค่ะ  สารเหล่านั้นคือคาเฟอีน และในคาเฟอีนยังมีสารธีโอฟิลลีน และสารแซนทีน อัลคานอยด์

ไม่น่าเชื่อว่าผลไม้พื้นๆ อย่างกล้วยน้ำว้า  จะสามารถช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อนให้บรรเทาลงได้ โดยเฉพาะกล้วยสุกที่ยังเขียว ๆ อยู่ แต่ถ้างอมเกินไปจะไม่ดีน่ะค่ะ แนะนำเอาประเภทที่มียางของกล้วย  โดยกล้วยที่มียางซึ่งเป็นสารฝาด เจ้าสารฝาดตัวนี้แหล่ะค่ะ ตามตำราอายุรเวทแล้ว ถือว่าเป็นตัวสมานแผล ช่วยเคลือบกระเพาะชั้นดี

ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ผู้ก่อตั้งบริษัทดีท็อกซ์(ประเทศไทย) จำกัด และนักวิจัยไทยผู้โด่งดังที่ได้รับรางวัลจากนานาประเทศ กับผลงานการวิจัย สารสกัดขมิ้นชันที่สามารถดึงเอาสารสำคัญภายในขมิ้นชันที่ชื่อ "Curcuminoids" ออกมาทำละลายน้ำได้จริง มีประสิทธิภาพสูง และสามารถละลายน้ำได้มากกว่าขมิ้นชันทั่วไปถึง 10,000 เท่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทุกๆท่านรู้จักในชื่อ "Green Curmin" นั้นเอง

เมื่อเร็วๆนี้มีการเปิดเผยผลการวิจัยในห้องเล็บที่แสดงว่า ขมิ้นชันสามารถต้านเซลล์มะเร็งได้ โดยผลการศึกษาเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง ก็แสดงให้เห็นชัดว่า “สารเคอร์คูมินอยด์” ที่อยู่ในขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และสามารถช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ โดยเฉพาะมะเร็งที่อยู่บริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้